วันที่นำเข้าข้อมูล 7 ธ.ค. 2560
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2560 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ได้จัดงานวันชาติ ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต โดยมีผู้ร่วมงานกว่า 300 คน ซึ่งประกอบด้วยนาง Susan Shabangu รัฐมนตรีว่าการสตรีแห่งทำเนียบประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลแอฟริกาใต้ นาย Bene M’Poko ประธานคณะทูต ณ กรุงพริทอเรีย และนาย Talgat Kaliyev ประธานกลุ่มคณะทูตภูมิภาคเอเชีย ณ กรุงพริทอเรีย คณะทูตานุทูต และประชาชนพี่น้องชาวไทย
นายไพสิฐ บุญปาลิต อุปทูต ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ของการจัดงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันมงคล โดยให้ถือเป็นวันพ่อ วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเป็นวันชาติของไทย ในการนี้ อุปทูตได้กล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณที่หาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเป็นที่รักและเคารพของพสกนิกรชาวไทย เนื่องจากพระองค์ได้ทุ่มเทพระวรกายเพื่อความอยู่ดีมีสุขของพสกนิกรตลอด 70 ปี ที่ทรงครองราชย์ โดยในการดังกล่าว ได้มีการถวายรางวัลเพื่อระลึกถึงความเมตตาของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรางวัล Lifetime Achievement Award ของสหประชาชาติ และการคงไว้ซึ่งความทุ่มเทต่อการพัฒนาเกษตรกรรมของพระองค์ โดยสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันดินโลก
นายไพสิฐฯ ยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับแอฟริกาใต้ที่จะครบรอบ 25 ปี ในปี 2561 ซึ่งไทยกับแอฟริกาใต้ควรต่อยอดความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ โดยจะมุ่งเน้นด้านการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม การทหาร และด้านการค้า ซึ่งในช่วงการฉลองความสัมพันธ์จะมีการเจรจาหารือทั้งระหว่างภาครัฐและระหว่างภาคเอกชน
อุปทูตยังได้กล่าวถึงเจตนารมย์ของไทยที่จะร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกับแอฟริกาใต้ยิ่งขึ้น ตามที่นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวไว้ในระหว่างการเข้าร่วมประชุม IORA (Indian Ocean Rim Association) ที่แอฟริกาใต้เป็นประธาน ทั้งนี้ ไทยกับแอฟริกาใต้ยังสามารถร่วมมือกันได้ในหลายประเด็น อาทิ การค้าระหว่างประเทศ การแก้ไขปัญหาโลกร้อน การผลักดันบทบาทของสตรีและเด็ก และการพัฒนาเศรษฐกิจ Blue Economy เป็นต้น
นายไพสิฐฯ ย้ำว่าความร่วมมือระหว่างไทยและแอฟริกาใต้ต้องส่งผลโดยตรงต่อความกินดีอยู่ดีของประชาชนทั้งสองประเทศ และรัฐบาลทั้งสองประเทศต้องร่วมมือกัน โดยลดอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนอย่างจริงจัง
รูปภาพประกอบ