ตามข้อ 17 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/ 2560 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ลงวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2560 ประกอบกับที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย Thailand 4.0 ครั้งที่ 1/ 2561 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ยกเลิกการใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อรองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) นั้น

            เพื่อให้งานบริการประชาชนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูต ได้แก่

            (1) งานบริการหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์

            (2) งานบริการรับรองนิติกรณ์เอกสาร

            (3) งานบริการทะเบียนราษฎร และทะเบียนครอบครัว

            (4) งานรับเรื่องขอความช่วยเหลือทางกงสุลแก่คนไทยในต่างประเทศ

            เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย Thailand 4.0 ดังกล่าวข้างต้น อันเป็นการอำนวยความสะดวก และลดภาระของประชาชนในกรณีที่ต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านในการติดต่อราชการกับสถานเอกอัครราชทูต อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 50/4 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 เอกอัครราชทูตในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนจึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้

            “ให้ยกเลิกการใช้สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านในการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ กฎ ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ ข้อกำหนด หรือแนวทางปฏิบัติต่างๆ ของสถานเอกอัครราชทูตที่กำหนดให้บุคคล ต้องใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน เว้นแต่ในกรณี ดังต่อไปนี้”

            (1) กรณีที่มีความจำเป็นต้องการสำเนาเอกสารดังกล่าว อาทิ การขอรับบริการทะเบียนราษฎร และทะเบียนครอบครัว การยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองความประพฤติ ให้เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตเป็นผู้จัดทำสำเนาเอกสารดังกล่าวขึ้นเอง  และห้ามมิให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการจัดทำเอกสารนั้น

            (2) กรณีการมอบอำนาจ ยังคงใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง

            (3) กรณีการขอรับรองสำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน และ/หรือ สำเนาทะเบียนบ้าน รวมถึงการยื่นคำร้องผ่านสถานเอกอัครราชทูตเพื่อขอหนังสือรับรองความประพฤติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผู้ขอรับบริการต้องจัดทำสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นเอกสารประกอบคำร้องขอรับรองนิติกรณ์เอกสารนั้น

            ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป